เส้นทางที่ 2 เส้นทางปั่นเที่ยงกงไกรลาศ เมืองปลาน้ำจืด สุโขทัย ( 5.5 กิโลเมตร)
อำเภอกงไกรลาศ
อำเภอเล็กๆทางตอนใต้ของจังหวัดสุโขทัย มีแม่น้ำยมไหลผ่าน ช่วงฤดูน้ำหลากน้ำก็จะเอ่อท่วมท้องทุ่งนาอย่างสุดสายตา
แต่หลังน้ำลด สิ่งที่เหลือให้ชาวกงไกรลาศ คือ ปลาน้ำจืด จำนวนมาก
ที่ตกค้างอยู่ตามแม่น้ำหนอง คลอง บึง ความอุดมสมบูรณ์ของพันธืปลาน้ำจืดตามธรรมชาติของสุโขทัย
ทำให้สุโขทัย มีชื่อด้านตลาดปลาน้ำจืด การแปรรูปเป็นปลาร้า น้ำปลา ปลาย่าง ปลาเค็ม
เส้นทางปั่นจักรยาน จะเริ่ม ที่ ศูนย์ OTOP หรือ ร้านเพ็ญจันทร์ -- ข้ามฝั่งไปดูหอสมุดประชาชนหลังเก่าที่เคยเป็นฉากภาพยนตร์ -- ไปตัวตลาด
แวถถ่ายภาพบรรยากาศ วัดบ้านกร่าง -- ปั่นชมวิถีดูบ้านเรือนไม้โบราณ มุ่งสู่ตลาดปลา ชิมขนมผิง ทองพับ ทองม้วน -- วัดกงไกรลาศ
ริมแม่น้ำยม มีวิหารลอยที่ประดิษฐาน “หลวงพ่อโต” -- อีกฝั่งเป็นบ้านไม้ใต้ถุนสูงป้องกันน้ำท่วม ที่เรียกกันว่า “เกาะกง”
เป็นเกาะกลางแม่น้ำยม เดินข้ามสะพานเที่ยว แล้วมาทีท้ายตลาด ดูชาวบ้านเลือกปลา เลยไปชิมผัดไทยเจ้าอร่อย
ที่ร้านผัดไทยใบตอง
และ ทุกๆเสาร์แรกของทุกเดือน เวลา 16.00-21.00
น. อย่าลืมแวะเที่ยว “ตลาดริมยม 2437” ชมผู้คนในเครื่องแต่งกายโบราณในรูปแบบตลาดย้อนยุค
พร้อมเลือกทานอาหารอร่อยมากมายหลายชนิด
เส้นทางที่
3 “เส้นทางสวนใบตอง คลองกระจง” ระยะทาง 11 กิโลเมตร
จังหวัดสุโขทัย ถือได้ว่า
เป็นเมืองเกษตรกรรมเมืองหนึ่ง ในภาคเหนือตอนล่าง ประชากรส่วนใหญ่ประกอบอาชีพ ทำไร่
ทำนา ทำสวนผลไม้ โดยเฉพาะในเขต ต.คลองกระจง อ.สรรคโลก โดยรอบของสนามบินสุโขทัย
เป็นแหล่งผลิตใบตองตานีส่งออก ทั้งใน และต่างประเทศ ที่สำคัญแห่งหนึ่งของไทย
และยังเต็มไปด้วยสวนผลไม้อื่นๆ เช่น ละมุด มะปราง มะยงชิด ส้มโอ มะไฟ มะพร้าว
ปั่นเที่ยวชม “สวนใบตองคลองกระจง”
เริ่มต้นที่ โครงการเกษตรอินทรีย์สนามบินสุโขทัย” -- ปั่นลัดเลาะไปตามสวนชาวบ้านคลองกระจง ออกกำลังกายในบรรยากาศบ้านสวน ที่จะชวนให้คุณลืมเมืองไปเลย
เส้นทางที่
4 “เส้นทางท่องเมืองสวรรคโลก (จังหวัดสวรรคโลก)” ระยะทาง 7.5 กิโลเมตร
เมืองสวรรคโลก แต่เดิมนั้น คือ
จังหวัดสวรรคโลก มีเรื่องราวน่าเรียนรู้จากอาการเก่า บ้านเรือนไม้สวยงาม หลายแห่ง
อาทิ -- สถานีรถไฟสวรรคโลก ที่ยังคงเก็บรักษาลักษณะอาคาร การตกแต่งแบบดั้งเดิมไว้ มานาน
กว่า ร้อยปี ประวัติศาสตร์ที่น่าประทับใจอย่างยิ่งของชาวสวรรคโลกคือ
การได้เฝ้ารับเสด็จรัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เมื่อวันที่ 1 มีนาคม
พ.ศ.2501 ทรงเสด็จออกประทับที่หน้ามุข
ของอาคารที่ว่าการอำเภอสวรรคโลกหลังเก่า
ปั่นท่องเมืองนี้ ก็จะได้ชมบ้านเรือนเมืองเก่า เลาะริมน้ำยม -- ชมสถานีรถไฟสวรรค -- วัดสว่างอารมณ์วรวิหารหรือวัดจวน
สักการะพระพุทธเรืองฤทธิ์ พระและวัดคู่บ้านคู่เมือง -- ปั่นไปตามทางหลวง 101 เลี้ยวขวาไปชม -- อาคารไม้เก่าของ โรงเรียนอนันตนารี ซึ่งเป็น สนง.กศน.สวรรคโลก และ
พิพิธภัณฑ์พื้นบ้าน ใต้ถุน มีบริการนวดแผนไทย -- ปั่นมุ่งหน้าไปทางแม่น้ำยม เลาะแม่น้ำไป สักกาะเจ้าแม่ทับทิม -- ศาลหลักเมือง -- ปั่นต่อไปชมพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ สวรรคนยก -- ใกล้
ๆ กัน จะได้เห็นกุฎิเจ้าอาวาส วัดกลาง อาคารสวยในสมัยต้นรัตนโกสินทร์ -- ปั่นเลียบแม่น้ำไปสะพานแขวน -- มุ่งหน้า ไปชมวิถีตลาดสดเมืองสวรรคโลก ชิมกาแฟ ยกล้อ และบะหมี่ร้อยปี ให้อิ่มเอม ก่อนแยกย้าย
เส้นทางที่
5 “เส้นทางเตาเผาเมืองเชลียง
ศรีสัชนาลัย” ระยะทาง 21 กิโลเมตร
เมืองเชลียง
หรือ ศรีสัชนาลัย เป็นเมืองลูกหลวงของแคว้นสุโขทัย ตั้งอยู่ที่ราบลุ่มริมแม่น้ำยม
บริเวณที่ลาดเชิงเขาพระศรี และเขาใหญ่ ทำให้มีความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่
เป็นเมืองที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์คู่ขนานมากับเมืองสุโขทัย
ร่องรอยความเจริญรุ่งเรืองในอดีตยังคงปรากฏหลักฐานให้เห็น
ชวนให้มาค้นคว้าเที่ยวชมมากมาย
เส้นทางนี้เป็นการปั่นเลาะแม่น้ำยม
เริ่มที่ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุเชลียง เชื่อกันว่าเป็นศูนย์กลางของเมืองศรีสัชนาลัย -- ไปชมหลุมขุดโครงกระดูกมนุษย์ วัดชมชื่น -- ผ่าน สนง.อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาบัย
แก่งหลวง ไป แวะชมกลุ่มเตาทุเรียงบ้านเกาะน้อย ก่อนมุ่งหน้าสู่ -- บ้านหาดสูง ไปชิมขนมพื้นบ้าน “ข้าวโค้งและข้าวโถเถ” เที่ยวตลาดหาดสูง
ชมผ้าซิ่นตึนจก -- ปั่นไปชมทุ่งนา สวยๆ อากาศสดชื่นสบายๆ
หายใจเต็มปอด -- มุ่งหน้าสู่พิพิธภัณฑ์ผ้าทองคำ ร้านลุงสาธร เลือกซื้อผ้าบ้านหาดเสี้ยว ก่อนจะเลี้ยวกลับบ้าน
เส้นทางที่
6 “เส้นทางบ้านนาต้นจั่น สุโขทัย”
ระยะทาง 17.5 กิโลเมตร
“บ้านนาต้นจั่น” หมู่บ้านเล็กๆ ติดเชิงเขาในเจตอำเภอศรีสัชนาบัย
รอยต่อจังหวัดอุตรดิตถ์ มีวิถีการดำรงชีวิตแบบเรียบง่าย เป็นมิตร มีวิถีชนบทที่ยังเปี่ยมไปด้วยเสน่ห์
และความสวยงาม จนได้รับรางวัล อุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Tourism
Awards) ประเภทองค์กร/ชุมชนท่องเที่ยวยอดเยี่ยม ประจำปี 2556 จาก
การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย
เส้นทางนี้
เป็นการปั่นท่องชมบ้าน ชมเมือง ทุ่งนา ป่าเขา เริ่มจาก ตลาดหาดเสี้ยว ขึ้นเหนือ -- ไปบ้านตึก ผ่านทุ่งนา ชุมชน โรเงรียน วัด
ไปถึง -- ศูนย์กลางชุมชนบ้านนาต้นจั่น
ขมการสาธิตการทำ “ผ้าหมักโคลน”
ชมของเล่นบริหารมือ “ของเล่นตาวง” -- วัดนาต้นจั่น -- เที่ยวชมผลไม้ สวนทุเรียน ลองกอง ลำไย มะไฟ มังคุด -- ทาน “ข้าวเปิ๊ป” อาหารท้องถิ่น เป็นมื้อเที่ยง ก่อนจะแยกย้ายกันกลับ แต่ จะปั่นไปถึง “ศูนย์อนุรักษ์ช้างศรีสัชนาลัย”
ชมการดูแล เลี้ยงช้าง นั่งช้างชมป่าที่ท้ายหมู่บ้าน และหากเหนื่อยเกินไป แนะนำให้พักโฮมเสตย์
บ้านนาต้นจั่น มีหลายหลัง หลายรูปแบบ ทั้งสวย ชิค ชิล
เหมือนหลุดไปในดินแดนมหัศจรรย์ ที่รายล้อมด้วยดอกไม้ ป่าไม้ รอบตัว ชวนให้อยู่ต่ออีกหลายวันทีเดียว
เส้นทางที่
7 “เส้นทางเมืองชากังราว กำแพงเพชร” ระยะทาง 5 กิโลเมตร
แนวกำแพงเมืองที่ยังมีร่องรอยหลงเหลือ
รวมถึงป้อมปราการที่แข็งแกร่ง ตระการตา
แสดงให้เห็นถึงการเป็นเมืองหน้าด่านที่สำคัญเข้มแข็ง สมดังขื่อ กำแพงเพชร ในอดีต
ตั้งแต่สมัยสุโขทัย - อยุธยา ปัจจุบัน
ถูกปกคบุมด้วยร่มไม้ใหญ่ อยู่ใจกลางเมือง เหมือน “ป่าใหญ่ในเมือง” ที่แสนร่มรื่น
เมื่อเริ่มปั่นในเขตอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร จะรู้สึกสดชื่นแจ่มใสมากมาย
เริ่มต้นปั่น
จาก ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวภายในอุทยานฯ ผ่านไปตาม วัดสำคัญๆ รอบอุทยาน ตามนี้ -- วัดอาวาสใหญ่ ด้านหน้าวัด มีบ่อสามแสน
มีการจัดผังโบราณสถานสวยงาม -- วัดช้างรอบ เอกลักษณ์ ที่โดดเด่น คือ เจดีย์ประธานทรงระฆังขนาดใหญ่
ประดับด้วยช้างปูนปั้นครึ่งตัวรอบฐาน ทรงเครื่องแบบช้างของพระมหากษัตริย์ -- วัดพระสี่อิริยาบถ
รอบมณฑปประดิษฐานพระพุทธรูปปูนปั้นทั้ง 4 ด้าน (ยืน เดิน นั่ง นอน) -- วัดพระนอน เดิมที มีพระพุทธรูปปางไสยาสน์
มีเสาศิลาแลง ขนาดใหญ่มากๆๆ ที่โกลนจากศิลาแลงท่อนเดียวทั้งต้น
ฝีมือช่างก่อสร้างของชาวกำแพงเพชรโบราณที่น่าอัศจรรย์ -- สักการะ ศาลหลักเมือง แล้วไป -- วัดพระแก้ว วัดขนาดใหญ่ที่สุดของกลุ่มโบราณสถานตั้งอยู่ในบริเวณเขตพระราชวังเก่า ก่อนเดินทางกลับ ปั่นไปตามถนนราชดำเนิน หา “บะหมี่ขากังราว”
กินก่อนกลับ สัก 2-3 ชาม ก็จะงามไม่ใช่น้อย
เส้นทางที่
8 “เส้นทางตลาดเก่านครชุม กำแพงเพชร” ระยะทาง 3 กิโลเมตร
ฟากฝั่งหนึ่งของแม่น้ำปิง
จะมองเห็น องค์เจดีย์สีทองอร่าม สะทอ้นกับลำน้ำปิง “วัดพระบรมธาตุนครชุม”
ปากคลองสวนหมาก เป็นที่เคารพสักการะของชาวกำแพงเพชรมาก “เมืองนครชุม” แห่งนี้
เป็นย่านการค้าที่สำคัญในอดีตเมื่อกว่าร้อยปี มาแล้ว ที่นี่เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจ
ชุมชนทางเรือที่สำคัญของแม่น้ำปิง มีเรื่องราวเล่าขานของเรื่อง “พะโป้” ชาวกระเหรี่ยว
ผุ้ได้สิทธิ์สัมปทานไม้ในเมืองกำแพงเพชร ตั้งบ้านเรือนที่บริเวณปากคลองสวนหมาก หนึ่ง
ใน ตัวละครของนวนิยายและภาพยนตร์เรื่อง “ชั่วฟ้าดินสลาย”
สัมผัสเรื่องราวในอดีตของเมืองนี้ได้จาก “หนังสือ ทุ่งมหาราช” เส้นทางปั่นในเมืองนี้จะได้ชมเรือนไม้โบราณดั้งเดิม
วิถีชีวิตผู้คน ที่ยังเรียบๆ ง่ายๆ ไปชมการทำขนมโบราณ “ขนมข้าวตอกอัด” ที่อร่อยล้ำคำเดียว ไม่พอ ขอบอก และทางเทศบาล
ต.นครชุมได้จัดให้มี “ตลาดย้อนยุคนครชุม” ให้ได้มาจับจ่ายซื้อของทั้งของกินหายาก
ของฝาก และหลายสิ่งในบรรยากาศที่จะพาคุณย้อนวันวานไปใกล้ชิดกับอดีตอีกนิด
ทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์แรกของเดือน เวลา 16.00-22.00 น.
เส้นทางที่
9 “เส้นทางปั่นพิชิตช่องเย็น กำแพงเพชร” ระยะทาง 28 กิโลเมตร
“หนาวทั้งปี....
ที่ช่องเย็น” ... ที่ไหนเหรอช่องเย็น.... จะจริงหรือที่มีอากาศหนาวทั้งปี ....
ไม่ไกลเกินเอื้อมจริงๆ “ช่องเย็น” ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแม่วงก์
จังหวัดกำแพงเพชร เป็นจุดสิ้นสุดของถนนทางหลวงหมายเลข 1117 (อ.คลองลาน-อ.อุ้มผาง)
หลักกิโลเมตรที่ 93 สงจากระดับน้ำทะเล 1,340 เมตร
เป็นหุบเขาที่ได้รับกระแสลมพัดผ่านจาก 3 ผืนป่า คือ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง
อุทยานแห่งชาติคลองลาน และอุทยานแห่งชาติแห่งชาติคลองวังเจ้า จึงทำให้มีอากาศหนาวเย็นทั้งปี
อุณหภูมิเฉลี่ยที่ 20 องศาเซลเซียส
จึงเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวแนวรักษ์ธรรมชาติ กลุ่มดูนก
เพราะเป็นแหล่งดูนกที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองบไทย
เหมาะสำหรับจัดโปรแกรมเข้าไปพักค้างแรมสัมผัสธรรมชาติที่ “ช่องเย็น” ได้ทุกช่วงเดือน
เส้นทางนี้
เป็นการปั่นจักรยานท่ามกลางธรรมชาติป่าเขา ไต่ระดับความสูงขึ้นไปเรื่อยๆ
ฟังเสียงนก สเยงลม สัมผัสความหนาวเย็น ในระยะทาง 28 กม.
จากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวขึ้นไปถึงช่องเย็น ระหว่างทางแวะพักขาชมทิวทัศน์ ที่ “แก่งผานางคอย” ลำธารน้ำใสไหลเย็น “จุดชมวิวกิ่วกระทอง”
มองดูทิวเขาลึกไกลสุดสายตา “จุดชมวิวขุนน้ำเย็น” ตรงขุนน้ำเย็น
มีจุดบริการนักท่องเที่ยว ปั่นเลาะไปตามแนวเขา
หากโชคดีอาจได้เจอทะเลหมอกไหลผ่านตัว และไม่ไกลจากช่องเย็นนัก
มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ และจุดชมวิว 360 องศา ที่ “จุดชมวิวผาสวรรค์”
จุดชมพระอาทิตย์ทั้งขึ้นและตกที่สวยไม่แพ้ที่ใดในโลก
***ก่อนการเดินทางควรลงทะเบียน
และรับฟังคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่อุทยานก่อนปั่นขึ้นช่องเย็น จัดเตรียมอุปกรณ์
สัมภาระ อาหารให้พร้อมกรณีต้องการพักค้างแรมด้านบน
และร่วมปฏิบัติตามกฎระเบียบของอุทยานด้วยหัวใจของนักอนุรักษ์ธรรมชาติ**
เส้นทางที่
10 “เส้นทางปั่นจักรยานเชื่อมโยง กลุ่มเมืองมรดกโลก กำแพงเพชร สุโขทัย ศรีสัชนาลัย”
ระยะทาง 140 กิโลเมตร
เส้นทางเชื่อมโยง
กลุ่มเมืองมรดกโลกสุโขทัย และเมืองบริเวาร ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อ ปี
2534 เป็นเส้นทางระยะยาว มีการพักค้างแรม สำหรับเส้นทางนี้ต้องมีเวลาอย่างน้อย 4
วัน เพื่อจะได้เดินทางเที่ยวให้ครบ และไม่เหนื่อยมากสำหรับการปั่นจักรยาน
วัน
1 -- เมืองกำแพงเพชร ปั่นรอบอุทยานประวัติศาสตร์กำแพงเพชร นอกพักในโรงแรมในตัวเมือง
วัน
2 -- ปั่นจาก กำแพงเพชร -- สุโขทัย ระยะทาง 80 กิโลเมตร บนทางหลวงหมายเลข 110 ออกจากกำแพงเพชร -- มุ่งหน้าอ.พรานกระต่าย -- เข้าสู่เขต อ.คีรีมาศ จ.สุโขทัย มองเห็นทิวเขาหลวง -- ชมหมู่บ้านเครื่องปั้นดินเผา ที่บ้านทุ่งหลวง -- ทางหลวงชนบท สท.3024 บ้านนาเชิง -- ไปอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย
ปั่นชมรอบอุทยาน เก็บภาพความทรงจำ ตอนพระอาทิตย์ตก ในจุดที่สวยที่สุดของอุทยานฯ
วัน
3 -- ปั่นชมเมืองเก่าสุโขทัย -- เข้าตัวเมืองไปชิมก๋วยเตี๋ยวสุโขทัย -- บ่าย ปั่นไป อ.ศรีสัชนาลัย ถนนเส้น 1095 มุ่งหน้าสนามบินสุโขทัย ผ่าน อ.ศรีสำโรง
เลาะไปตามทุ่งใบยาสูบ ไร่ดอกดาวเรือง ท้องนา -- เข้า อ.สวรรค์โลก ผ่าน สวนผลไม้ สวนใบตองตานี -- เข้าไปเยี่ยมชมโครงการเกษตรอินทรีย์สนามบินสุโขทัย -- ออกมุ่งหน้าไปสู่ อ.ศรีสัชนาลัย ปั่นรอบอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย -- มุ่งหน้าบ้านหาดเสี้ยว หาที่พักค้างคืน
วัน
4 -- ปั่นเที่ยวชมตลาดบ้านหาดเสี้ยว หาดสูง ชมวิถีชีวิตชาวไทพวน ซื้อผ้าทองามๆ
ชิมขนมข้าวโค้ง ขนมโถเถ ช่วงบ่ายเดินทางกลับ จบทริป ปิดจ๊อบ หอบความสุขไปนอนฝันสร้างพลังชีวิต
แผนที่เส้นทาง ที่ 10
|
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น